

ในขณะนี้ปัญหาชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาได้ลุกลามกลายเป็นปัญหาระดับชาติที่ทุกฝ่ายตั้งแต่ชนชั้นรากหญ้าจนไปถึงระดับผู้นำต้องออกมาร่วมกันหารือเพื่อหาทางออกที่ดีสุดในการหยุดยั้งปัญหาทางการเมืองภายในประเทศที่มีแนวโน้มว่าจะปะทุขึ้นเรื่อย
ๆ
แต่นอกจากปัญหาทางการเมือง ขณะนี้ประเทศไทยก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมที่หลากหลายและไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย
ๆ ตั้งแต่ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ไปจนถึงการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานที่ยังไม่ทั่วถึง ส่งผลให้บทบาทของผู้ประกอบการเพื่อสังคม
(social entrepreneurship) มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย
ๆ ในฐานะผู้สร้างธุรกิจและผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในเวลาเดียวกัน
ความจำเป็นของผู้ประกอบการเพื่อสังคมในบริบทเศรษฐกิจไทยสามารถสรุปเป็นประเด็นสำคัญได้ดังนี้
1.เติมเต็มช่องว่างการแก้ไขปัญหาสังคมที่ภาครัฐและภาคเอกชนทั่วไปยังเข้าไม่ถึง
2.ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
3.สร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
4.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก
5.กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน
ธุรกิจเพื่อสังคมที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือสังคมในประเทศไทย
เช่น ดอยคำ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ Cabbages & Condoms และ Local Alike เป็นต้น
สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับความจำเป็นและคุณลักษณะที่ดีของการเป็นผู้ประกอบการทางสังคมได้ที่บทความ
“ผู้ประกอบการเพื่อสังคม ที่ประเทศไทยต้องการ”
โดย ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด
ได้ที่
https://www.matichon.co.th/article/news_5214841